การรับจำนำรถยนต์มือสอง

ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง ตัวเลขคนตกงานพุ่ง ธุรกิจแห่ปิดกิจการ จากผลกระทบทางเศรษฐกิจ และโควิด-19 ทำให้ผู้ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินใช้ ต้องดิ้นรนทุกวิถีทาง เพื่อหาเงินมาจับจ่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการนำรถไปจำนำรถยนต์

ปัญหาด้านการเงิน อาจเกิดกับเราได้เสมอ ซึ่งก็ต้องหาทางออกกันไปในแบบของแต่ละบุคคล รับจำนำรถยนต์ รถมือสอง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีผู้เลือกปฏิบัติอยู่มากแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่หากไม่มีความจำเป็นถึงที่สุด ก็ไม่ควรเลือกทางออกนี้ เนื่องจากอัตราค่าดอกเบี้ยในการจำนำรถนั้นแพงมาก

การคิดดอกเบี้ยแต่ละเต็นท์จะไม่เท่ากัน จะเริ่มต้นตั้งแต่ 1% ขึ้นไป บางรายคิดมากถึง 5% ถือว่าโหดและเกินที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าจะดูเหมือนน้อย แต่ยังต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควรอีกหนึ่งอย่างด้วย คือ ค่าจอดรถหรืออาจจะคิดค่าดูแลรถยนต์เพิ่มมาด้วย

ค่าจอดรถส่วนใหญ่คิดที่ 2,000 บาทต่อเดือน หากกู้ยืมเงินจำนวน 20,000 บาท ดอกเบี้ย 5% ก็ประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน เมื่อรวมกับค่าจอดรถยนต์อีก 2,000 บาทแล้ว การจำนำรถยนต์ในยอดเพียง 20,000 บาท กลับต้องจ่ายทั้งดอกเบี้ยและค่าจอดมากถึง 3,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว

ยอดเงินจำนำสำหรับรถยนต์มือสอง
– รถมือสองราคา 50,000-80,000 บาท ส่วนใหญ่จะได้ไม่เกิน 20,000-30,000 บาท
– รถมือสองราคาไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนใหญ่จะได้เกิน 35,000-50,000

ยี่ห้อของรถ ก็มีส่วนในการรับจำนำรถยนต์เช่นเดียวกัน ถ้าเป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยม เครื่องเล็ก ไม่ค่อยมีปัญหา ก็จะมีโอกาสจำนำได้สูง
การระบุยอดที่ต้องการนั้น ให้ดูราคารถรุ่นของเราที่ซื้อขายในท้องตลาดก่อน จากนั้นก็ระบุประมาณยอดจำนำประมาณครึ่งหนึ่งของราคารถ อาจจะได้มากกว่านั้น แต่ก็ไม่เกิน 2 ใน 3 ของราคาที่ซื้อขายกันในท้องตลาด ในขณะนั้น หรืออาจจะได้แค่ 1 ใน 3 เท่านั้น

การรับจำนำรถยนต์นั้น ไม่ควรจำนำเกิน 2 เดือน เพราะหากนานเกินไป แบตเตอรี่จะเสีย ต้องมีค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่อีกหลายพันบาท หากมีความจำเป็นต้องจำนำรถที่มีราคาไม่ถึงหนึ่งแสนบาท แนะนำว่าให้ขายไปเลยจะคุ้มค่ากว่าการที่ต้องมาคอยจ่ายค่าดอกเบี้ย

การรับจำนำรถยนต์มือสอง แม้จะเป็นช่องทางการหาเงินมาใช้ในยามจำเป็นอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นทางเลือกที่โหด และควรเก็บไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย คุณควรหาข้อมูลอย่างดี และตัดสินใจให้รอบคอบอย่างมีสติ ไม่เช่นนั้น อาจได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน